วันพุธที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2554

สรุป ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ

สรุป
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศและองค์กร
1. ความสำคัญของสารสนเทศ
ปัจจุบัน IT ได้ทวีความสำคัญขึ้นอย่างมาก ทั้งในชีวิตประจำวัน ชีวิตการทำงาน และการดำเนินงานองค์การ จนบางครั้งอาจเปรียบสารสนเทศได้เสมือนกับสายเลือดที่หล่อเลี้ยงการทำงานแทบทุกด้านขององค์กร  และผลกระทบของสารสนเทศมีอย่างกว้างขวาง ทั้งในระดับบุคคล กลุ่ม องค์กร รวมทั้งการทำงานในสาขาวิชาชีพต่าง ๆ
- บทบาทความสำคัญของสารสนเทศ เป็นผลเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม
- Toffler (1980) ได้แบ่งวิวัฒนาการของสังคมโลกออกเป็น 3 ยุค คือ
1.  ยุคเกษตรกรรม » ที่ดิน, แรงงาน
2. ยุคอุตสาหกรรม » คน,  เครื่องจักร
3. ยุคสารสนเทศ » ข้อมูล,  ข่าวสาร, ความรู้
- การเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมในปัจจุบันทำให้สารสนเทศมีความสำคัญเพิ่มขึ้น โดยเน้นประเด็นต่อไปนี้
 ระบบเศรษฐกิจยุคใหม่
การเปลี่ยนแปลงด้านองค์การและการบริหาร
การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี
2.  ความหมายของข้อมูล, สารสนเทศ, ความรู้
ข้อมูล (Data) คือ ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ หรือข้อมูลดิบที่ยังไม่ผ่านการประมวลผล ยังไม่มีความหมายในการนำไปใช้งาน ข้อมูลอาจเป็นตัวเลข ตัวอักษร สัญลักษณ์ รูปภาพ เสียง หรือภาพเคลื่อนไหว
สารสนเทศ (Information) คือ ข้อมูลที่ได้ผ่านกระบวนการประมวลผลหรือจัดระบบแล้ว เพื่อให้มีความหมายและคุณค่าสำหรับผู้ใช้ 
ความรู้ (Knowledge) คือ สารสนเทศบวกกับ Know-how คือ สารสนเทศอย่างเดียวไม่พอที่จะทำให้เกิดความรู้ เราต้องเข้าใจวิธีที่ดีที่สุดในการใช้สารสนเทศในการแก้ปัญหาผลิตสินค้าหรือบริการ
3. คุณค่าของสารสนเทศของแต่ละคนไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน(Haag et al, 2000) ในบทนี้จะกำหนดลักษณะของสารสนเทศที่ดีไว้ 4 มิติ คือ
               - มิติด้านเวลา (Time) การทันเวลา (Timeliness) »สามารถหาได้รวดเร็วทันเวลาที่ต้องการ
 ความเป็นปัจจุบัน (Up-to-date)» มีการปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ
 มีระยะเวลา (Time Period) » มีข้อมูลทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการวางแผนและการตัดสินใจ
               -  มิติด้านเนื้อหา (Content)ความถูกต้องเที่ยงตรง » สารสนเทศซึ่งไม่มีข้อผิดพลาด
ความสัมพันธ์กับเรื่อง » สอดคล้องกับเรื่องที่ต้องการ,ความสมบูรณ์ » คลอบคลุมรายละเอียดที่สำคัญทุกเรื่องที่ต้องการทราบ,ความน่าเชื่อถือได้ » ขึ้นอยู่กับการเก็บรวบรวมข้อมูล และแหล่งที่มาของข้อมูล,ตรวจสอบได้ » ตรวจสอบความถูกต้องและแหล่งที่มา
               -  มิติด้านรูปแบบ (Format)ความชัดเจน
ระดับของการนำเสนอรายละเอียด,รูปแบบการนำเสนอ ,สื่อในการนำเสนอ,ความยืดหยุ่น,ความประหยัด
          - มิติด้านกระบวนการ (Process) ความสามารถในการเข้าถึง,การมีส่วนร่วม,การเชื่อมโยง
4. ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
เทคโนโลยีสารสนเทศ คือ ฮาร์ดแวร์ ซอร์ฟแวร์ การสื่อสารโทรคมนาคม การจัดการฐานข้อมูล และเทคโนโลยีที่ใช้ในการประมวลผลสารสนเทศที่ใช้คอมพิวเตอร์
ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการที่ใช้คอมพิวเตอร์ มีองค์ประกอบที่สำคัญ 5 ส่วนคือ
ฮาร์ดแวร์ (Hardware),ซอร์ฟแวร์ (Software),ฐานข้อมูล (Database),เครือข่าย (Network),กระบวนการ (Procedure),คน (People)
5. แนวทางเกี่ยวกับระบบสารสนเทศ
การศึกษาเรื่องระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ จำเป็นต้องอาศัยความรู้ในสาขาวิชาต่าง ๆ ดังนั้นระบบสารสนเทศจึงมีลักษณะเป็น สหวิทยาการ
6. ประโยชน์ของสารสนเทศ
สารสนเทศที่ดีมีประโยชน์ในด้านต่อไปนี้
- ประสิทธิภาพ  (Efficiency)
- ประสิทธิผล  (Effectiveness)
- ความได้เปรียบในการแข่งขัน (Competitive Advantage)
- คุณภาพชีวิตการทำงาน (Quality of Working Life)
7. ความสัมพันธ์ระหว่างระบบสารสนเทศกับองค์กรและการจัดการ
ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ เป็นเรื่องการออกแบบและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศให้เกิดประโยชน์ประมีประสิทธิผล โดยจะต้องเข้าใจถึงสิ่งแวดล้อม โครงสร้างหน้าที่การทำงาน วัฒนธรรม การเมือง ภายในองค์การ ตลอดจนบทบาทของผู้บริหารและระบบการตัดสินใจ
 8. รีอินจิเนียริ่ง
รีอินจีเนียริ่ง คือ การทบทวนความคิดพื้นฐาน และการออกแบบกระบวนการทำงานใหม่โดยสิ้นเชิง เพื่อให้บรรลุผลการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ ในผลงาน เช่น ต้นทุน, คุณภาพ, บริการ, และความเร็ว
ข้อดีของรีอินจีเนียริ่ง
1. ปรับเปลี่ยนแนวคิดใหม่ในการทำงานทั้งหมด โดยไม่ยึดติดกับระบบการทำงานแบบเดิม
2. มุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ
3.  เจ้าหน้าที่/พนักงาน ทำงานได้เป็นอิสระมากขึ้น
4.  มีการนำ IT/IS มาใช้ในการปรังปรุงงาน
5.  เป็นวิธีปรับปรุงที่ให้ความสำคัญต่อกระบวนการเป็นสำคัญ
 9. ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศ
เฮอร์ไชม์ (Hirscheim, 1985) ได้เสนอแนวคิดเกี่ยวกับผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศ สามารถจำแนกได้ 3 กลุ่มคือ
- กลุ่มที่มองผลกระทบในด้านบวก (optimism)
- กลุ่มที่มองผลกระทบในด้านลบ (Pressimism)
- กลุ่มที่มองผลกระทบในลักษณะสัมพันธ์ (Relativism)

http://www.youtube.com/watch?v=wRVoMTGd-x0

วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2554

สรุป ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ

สรุป
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศและองค์กร
1. ความสำคัญของสารสนเทศ
ปัจจุบัน IT ได้ทวีความสำคัญขึ้นอย่างมาก ทั้งในชีวิตประจำวัน ชีวิตการทำงาน และการดำเนินงานองค์การ จนบางครั้งอาจเปรียบสารสนเทศได้เสมือนกับสายเลือดที่หล่อเลี้ยงการทำงานแทบทุกด้านขององค์กร  และผลกระทบของสารสนเทศมีอย่างกว้างขวาง ทั้งในระดับบุคคล กลุ่ม องค์กร รวมทั้งการทำงานในสาขาวิชาชีพต่าง ๆ
- บทบาทความสำคัญของสารสนเทศ เป็นผลเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม
- Toffler (1980) ได้แบ่งวิวัฒนาการของสังคมโลกออกเป็น 3 ยุค คือ
1.  ยุคเกษตรกรรม » ที่ดิน, แรงงาน
2. ยุคอุตสาหกรรม » คน,  เครื่องจักร
3. ยุคสารสนเทศ » ข้อมูล,  ข่าวสาร, ความรู้
- การเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมในปัจจุบันทำให้สารสนเทศมีความสำคัญเพิ่มขึ้น โดยเน้นประเด็นต่อไปนี้
 ระบบเศรษฐกิจยุคใหม่
การเปลี่ยนแปลงด้านองค์การและการบริหาร
การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี
2.  ความหมายของข้อมูล, สารสนเทศ, ความรู้
ข้อมูล (Data) คือ ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ หรือข้อมูลดิบที่ยังไม่ผ่านการประมวลผล ยังไม่มีความหมายในการนำไปใช้งาน ข้อมูลอาจเป็นตัวเลข ตัวอักษร สัญลักษณ์ รูปภาพ เสียง หรือภาพเคลื่อนไหว
สารสนเทศ (Information) คือ ข้อมูลที่ได้ผ่านกระบวนการประมวลผลหรือจัดระบบแล้ว เพื่อให้มีความหมายและคุณค่าสำหรับผู้ใช้ 
ความรู้ (Knowledge) คือ สารสนเทศบวกกับ Know-how คือ สารสนเทศอย่างเดียวไม่พอที่จะทำให้เกิดความรู้ เราต้องเข้าใจวิธีที่ดีที่สุดในการใช้สารสนเทศในการแก้ปัญหาผลิตสินค้าหรือบริการ
3. คุณค่าของสารสนเทศของแต่ละคนไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน(Haag et al, 2000) ในบทนี้จะกำหนดลักษณะของสารสนเทศที่ดีไว้ 4 มิติ คือ
               - มิติด้านเวลา (Time) การทันเวลา (Timeliness) »สามารถหาได้รวดเร็วทันเวลาที่ต้องการ
 ความเป็นปัจจุบัน (Up-to-date)» มีการปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ
 มีระยะเวลา (Time Period) » มีข้อมูลทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการวางแผนและการตัดสินใจ
               -  มิติด้านเนื้อหา (Content)ความถูกต้องเที่ยงตรง » สารสนเทศซึ่งไม่มีข้อผิดพลาด
ความสัมพันธ์กับเรื่อง » สอดคล้องกับเรื่องที่ต้องการ,ความสมบูรณ์ » คลอบคลุมรายละเอียดที่สำคัญทุกเรื่องที่ต้องการทราบ,ความน่าเชื่อถือได้ » ขึ้นอยู่กับการเก็บรวบรวมข้อมูล และแหล่งที่มาของข้อมูล,ตรวจสอบได้ » ตรวจสอบความถูกต้องและแหล่งที่มา
               -  มิติด้านรูปแบบ (Format)ความชัดเจน
ระดับของการนำเสนอรายละเอียด,รูปแบบการนำเสนอ ,สื่อในการนำเสนอ,ความยืดหยุ่น,ความประหยัด
          - มิติด้านกระบวนการ (Process) ความสามารถในการเข้าถึง,การมีส่วนร่วม,การเชื่อมโยง
4. ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
เทคโนโลยีสารสนเทศ คือ ฮาร์ดแวร์ ซอร์ฟแวร์ การสื่อสารโทรคมนาคม การจัดการฐานข้อมูล และเทคโนโลยีที่ใช้ในการประมวลผลสารสนเทศที่ใช้คอมพิวเตอร์
ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการที่ใช้คอมพิวเตอร์ มีองค์ประกอบที่สำคัญ 5 ส่วนคือ
ฮาร์ดแวร์ (Hardware),ซอร์ฟแวร์ (Software),ฐานข้อมูล (Database),เครือข่าย (Network),กระบวนการ (Procedure),คน (People)
5. แนวทางเกี่ยวกับระบบสารสนเทศ
การศึกษาเรื่องระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ จำเป็นต้องอาศัยความรู้ในสาขาวิชาต่าง ๆ ดังนั้นระบบสารสนเทศจึงมีลักษณะเป็น สหวิทยาการ
6. ประโยชน์ของสารสนเทศ
สารสนเทศที่ดีมีประโยชน์ในด้านต่อไปนี้
- ประสิทธิภาพ  (Efficiency)
- ประสิทธิผล  (Effectiveness)
- ความได้เปรียบในการแข่งขัน (Competitive Advantage)
- คุณภาพชีวิตการทำงาน (Quality of Working Life)
7. ความสัมพันธ์ระหว่างระบบสารสนเทศกับองค์กรและการจัดการ
ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ เป็นเรื่องการออกแบบและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศให้เกิดประโยชน์ประมีประสิทธิผล โดยจะต้องเข้าใจถึงสิ่งแวดล้อม โครงสร้างหน้าที่การทำงาน วัฒนธรรม การเมือง ภายในองค์การ ตลอดจนบทบาทของผู้บริหารและระบบการตัดสินใจ
 8. รีอินจิเนียริ่ง
รีอินจีเนียริ่ง คือ การทบทวนความคิดพื้นฐาน และการออกแบบกระบวนการทำงานใหม่โดยสิ้นเชิง เพื่อให้บรรลุผลการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ ในผลงาน เช่น ต้นทุน, คุณภาพ, บริการ, และความเร็ว
ข้อดีของรีอินจีเนียริ่ง
1. ปรับเปลี่ยนแนวคิดใหม่ในการทำงานทั้งหมด โดยไม่ยึดติดกับระบบการทำงานแบบเดิม
2. มุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ
3.  เจ้าหน้าที่/พนักงาน ทำงานได้เป็นอิสระมากขึ้น
4.  มีการนำ IT/IS มาใช้ในการปรังปรุงงาน
5.  เป็นวิธีปรับปรุงที่ให้ความสำคัญต่อกระบวนการเป็นสำคัญ
 9. ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศ
เฮอร์ไชม์ (Hirscheim, 1985) ได้เสนอแนวคิดเกี่ยวกับผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศ สามารถจำแนกได้ 3 กลุ่มคือ
- กลุ่มที่มองผลกระทบในด้านบวก (optimism)
- กลุ่มที่มองผลกระทบในด้านลบ (Pressimism)
- กลุ่มที่มองผลกระทบในลักษณะสัมพันธ์ (Relativism)
แก้ไข ข้อสอบกลางภาค

วันอังคารที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ส่ง Yrl

สอบแก้กลางภาค
1.จงให้คำนิยามของศัพท์ด้านระบบสาระสนเทศดังต่อไปนี้
ตอบ
 1.1 Virtual Organization คือการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้องค์กรสามารถดำเนินกิจการในพื้นที่ซึ่งอยู่ ห่าง ไกลออกไป หรือแม้แต่ในต่างประเทศได้โดยไม่จำเป็นต้องมีสำนักงานไปตั้งอยู่ ณ ที่นั้นจริง ๆ Virtual Organization อาจเป็นเพียงเครือข่ายของคอมพิวเตอร์ หรือคอมพิวเตอร์เพียงเครื่องเดียวที่อยู่กับอินเทอร์เน็ต หรืออาจเป็นเพียงพื้นที่บนเว็บเซอร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตก็ได้
1.2 e-Government คือ วิธีการบริหารจัดการภาครัฐสมัยใหม่ โดยการใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และเครือข่ายสื่อสารเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการ ดำเนินงานภาครัฐ ปรับปรุงการบริการแก่ประชาชน การบริการด้านข้อมูลและสารสนเทศเพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ประชาชนมีความใกล้ชิดกับภาครัฐมากขึ้น สื่ออิเล็กทรอนิกส์จะเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการเข้าถึงบริการของรัฐ ประการสำคัญจะต้องมีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดและเต็มใจจากทั้ง 3 ฝ่าย ได้แก่ ภาครัฐ ภาคธุรกิจและประชาชน
1.3 Re-engineering คือ การออกแบบกระบวนการทางธุรกิจใหม่แล้วนำกระบวนการใหม่ไปปฏิบัติให้เกิดผล เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ โดยมีเป้าหมายสูงสุดอยู่ที่การลดต้นทุนการดำเนินงานของธุรกิจนั้น
1.4 Knowledge Management คือ การจัดการความรู้ คือ การรวบรวมองค์ความรู้ที่มีอยู่ในส่วนราชการซึ่งกระจัดกระจายอยู่ในตัวบุคคล หรือเอกสาร มาพัฒนาให้เป็นระบบ เพื่อให้ทุกคนในองค์กรสามารถเข้าถึงความรู้ และพัฒนาตนเองให้เป็นผู้รู้ รวมทั้งปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันจะส่งผลให้องค์กรมีความสามารถในเชิงแข่งขันสูงสุด 
1.5 SCRM (customer relationship management) เป็นคำในอุตสาหกรรมสารสนเทศสำหรับวิธีการ ซอฟต์แวร์ และบ่อยครั้งกับขีดความสามารถของอินเตอร์เน็ตที่ช่วยองค์กรธุรกิจจัดการความ สัมพันธ์กับลูกค้าในวิธีจัดกลุ่ม ตัวอย่าง องค์กรธุรกิจอาจจะสร้างฐานข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้า ที่อธิบายความสัมพันธ์ในราย ละเอียดเพียงพอเพื่อการจัดการ พนักงานขาย ให้บริการกับคนทั่วไป และบางทีลูกค้าสามารถเข้าถึงสารสนเทศโดยตรง จับคู่ความต้องการลูกค้ากับผลิตภัณฑ์และข้อเสนอ เตือนลูกค้าของความต้องการในบริการ รู้ถึงผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าซื้อ และอื่น

2. จงกล่าวถึง Computer ในด้านต่อไปนี้
2.1 ยกตัวประโยชน์ของ Computer มาหาข้อได้แก่
ตอบ  1. ทันสมัย / ทันเหตุการณ์ / ทันข้อมูลข่าวสาร / ทันโลก ช่วยให้เราสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ทั่วโลก
2. ช่วยให้การเรียน การทำงาน ทันสมัยและไรับความสะดวกมากยิ่งขึ้น เช่น ได้เรียนรู้จากสื่อที่ทันสมัยที่สร้างด้วยคอมพิวเตอร์     ที่เรียกว่า โปรแกรม CAI
3. เป็นแหล่งการเรียนรู้ที่ดีเยี่ยม ช่วยในการค้นคว้าหาความรู้เป็นห้องสมุดขนาดใหญ่
4. ช่วยรับ - ส่งข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว
5. ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียด เช่น เกม ดูภาพยนตร์ ฟังเพลง ร้องเพลง
6. ช่วยสร้างงานศิลปะ ออกแบบชิ้นงานได้อย่างสร้างสรรค์ สวยงาม
2.2 ยกตัวอย่างอุปกรณ์ในหน่วยต่อไปนี้ของคอมพิวเตอร์มาอย่างน้อย 3 อย่างต่อหน่วย
ตอบ
หน่วยรับข้อมูล ได้แก่1.คีย์บอร์ด 2.เมาส์ 3.จอทัชสกรีน 4.สแกนเนอร์ 5.ไมโครโฟน
หน่วยประมวลผลข้อมูล ได้แก่ 1.แรม 2.ซีพียู CPU 3.เมนบอร์ด
หน่วยความจำหลัก ได้แก่ .ซีพียู CPU 2. เมนบอร์ด 3.สแกนเนอร์
หน่วยความจำสำรอง ได้แก่ 1. Hard disk 2. Floppy disk 3. CD-ROM 4. DVD-ROM 5. Flash drive
หน่วยแสดงผลข้อมูล ได้แก่ 1.แรม  2.หน่วยแสดงผลชั่วคราว 3.หน่วยแสดงผลถาวร
3. จงอธิบายความแตกต่างระหว่าง
ตอบ
3.1 data กับ InFormation
ข้อมูล data เป็นส่วนของข้อเท็จจริง ยังไม่ได้ผ่านการตัดสินใจ ส่วน สารสนเทศ InFormation
 จะนำข้อมูลมาผ่านการตัดสินใจ นำไปใช้ทันที
3.2 Desktop computer กับ Laptop Computer
        1. คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ (Desktop computer) สมัยก่อนที่เครื่อง พีซี จะได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย หากมีเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดพอวางบนโต๊ะทำงานได้ก็ถือว่ามีขนาดเล็กแล้ว ปัจจุบัน "คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ" สื่อความไปในทางรูปทรงของตัวเครื่อง (computer case) ที่มีหลากหลายนับแต่รูปทรงตั้งสูงขนาดใหญ่แบบ หอคอย (tower case) หรือ ทรงเล็ก (small form factor) ที่วางแอบไว้หลังจอภาพ LCD ได้ คำว่า Desktop จึงหมายถึงรูปทรงของตัวเครื่องที่หลากหลาย ซึ่งปกติพยายามจะจัดวางโดยให้จอภาพวางอยู่บนตัวเครื่องเพื่อประหยัดพื้นที่วางบนโต๊ะทำงานนั่นเอง คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะในปัจจุบันจะมีส่วนของจอภาพ และแป้นพิมพ์แยกจากกัน
           2. คอมพิวเตอร์ขนาดวางตัก (Laptop) หรือเรียกว่า คอมพิวเตอร์ขนาดสมุดจดบันทึก (notebook) เป็นเครื่องพีซีที่มีขนาดเล็กลง นำหนักเบา เคลื่อนย้ายสะดวก ประหยัดพลังงาน มีแบตเตอรี่เป็นแหล่งพลังงานเสริมเพื่อสะดวกในการใช้งานในสถานที่ไม่สะดวกจะใช้ไฟบ้าน
3.2 LAN กับ WAN
          LAN  ระบบเครือข่ายขนาดเล็ก ที่ต้องประกอบด้วย Server และ Client โดยจะต้องมีคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ 2 เครื่องขึ้นไป ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการและผู้ใช้โดยที่ผู้ให้บริการซึ่งเป็น Server นั้น จะเป็นผู้ควบคุมระบบว่าจะให้การทำให้การทำงานเป็นเช่นไร และในส่วนของ Server เองจะต้องเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีสถานะภาพสูง
            WAN  เป็นเครือข่ายเชื่อมโยงกันในระยะทางที่ห่างไกล อาจจะเป็นหลาย ๆ กิโลเมตร  ดังนั้นความเร็วในการเชื่อมโยงระหว่างกันอาจไม่สูงมากนัก เพราะระยะทางไกลทำให้มีสัญญาณรบกวนได้สูง ความเร็วจึงอยู่ในระดับช่วง 9.6-64 Kbps และ 1.5-2 Mbps ขึ้นอยู่กับแอพพลิเคชั่นและขนาดของข้อมูล
4. จงกล่าวถึงประโยชน์ของระบบเครือข่ายมา 5 ข้อ พร้อมทั้งยกตัวอย่างอุปกรณ์เครือข่ายที่นักศึกษารู้จักมา 3 อย่าง
ตอบ 
1. การใช้อุปกรณ์ร่วมกัน (Sharing of peripheral devices) เครือข่ายคอมพิวเตอร์ทำให้ผู้ใช้ สามารถใช้อุปกรณ์ รอบข้างที่ต่อพ่วงกับระบบคอมพิวเตอร์ ร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่นเครื่องพิมพ์ ดิสก์ไดร์ฟ ซีดีรอม สแกนเนอร์ โมเด็ม เป็นต้น 
  2.  การใช้โปรแกรมและข้อมูลร่วมกัน (Sharing of program and data) เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้โปรแกรม และข้อมูลร่วมกันได้ โดยจัดเก็บโปรแกรมไว้แหล่งเก็บข้อมูล ที่เป็นศูนย์กลาง เช่น ที่ฮาร์ดดิสก์ของเครื่อง File Server ผู้ใช้สามารถใช้โปรแกรมร่วมกัน ได้จากแหล่งเดียวกัน ไม่ต้องเก็บโปรแกรมไว้ในแต่ละเครื่อง ให้ซ้ำซ้อนกัน 
 3. สามารถติดต่อสื่อสารระยะไกลได้ (Telecommunication) การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ เป็นเครือข่าย ทั้งประเภทเครือข่าย LAN , MAN และ WAN ทำให้คอมพิวเตอร์ สามารถสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูล ระยะไกลได้โดยใช้ซอฟต์แวร์ประยุกต์ ทางด้านการติดต่อสื่อสาร 
4. สามารถประยุกต์ใช้ในงานด้านธุรกิจได้ (Business Applicability) องค์กรธุรกิจ มีการเชื่อมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เพื่อประโยชน์ทางธุรกิจ เช่น เครือข่ายของธุรกิจธนาคาร ธุรกิจการบิน ธุรกิจประกันภัย ธุรกิจการท่องเที่ยว ธุรกิจหลักทรัพย์ สามารถดำเนินธุรกิจ ได้อย่างรวดเร็ว ตอบสนองความพึงพอใจ ให้แก่ลูกค้า
 5. ความประหยัด นับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างเช่นในสำนักงานหนึ่งมีเครื่องอยู่ 30 เครื่องหรือมากกว่านี้ ถ้าไม่มีการนำระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์มาใช้ จะเห็นว่าต้องใช้เครื่องพิมพ์อย่างน้อย 5 -10 เครื่องมาใช้งาน 
 6. ความเชื่อถือได้ของระบบงาน  นับเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับการดำเนินธุรกิจ ถ้าทำงานได้เร็วแต่ขาดความน่าเชื่อถือก็ถือว่าใช้ไม่ได้ ไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นเมื่อนำระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ มาใช้งาน ทำระบบงานมีประสิทธิภาพ มีความน่าเชื่อถือของข้อมูล 
ตัวอย่าง      1. เราเตอร์     2. สวิทต์     3. เกตเวย์
5.จงกล่าวถึงลักษณะเด่นและประโยชน์การนำมาประยุกต์ใช้งานของงานโปรแกรมต่อไปนี้
ตอบ
5.1 weblog/blog 
1. เป็นสื่อที่ใช้ในการแสดงความคิดเห็น ความรู้สึกของผู้เขียนเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ เพื่อเสนอให้ผู้คน สาธารณะได้รับรู้
2. เป็นเครื่องมือช่วยในด้านธุรกิจ เช่น การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ การเสนอข่าวสารความเคลื่อนไหวขององค์กร การเสนอตัวอย่างสินค้า การขายสินค้า และการทำการตลาดออนไลน์ เป็นต้น
3. เป็นแหล่งความรู้ใหม่ๆ ที่ถูกต้องและชัดเจน จากผู้มีความรู้เฉพาะด้านๆ นั้น เนื่องจากผู้เขียน Blog มักจะเขียนถึงเรื่องที่ตัวเองถนัด ชอบ และมี   ความรู้ลึกในเรื่องนั้นๆ การค้นหาข้อมูลเฉพาะด้านใน Blog ต่างๆ จึงทำให้เราค้นพบความรู้ และผู้มีความรู้ความชำนาญในด้านต่าง ๆ ได้รวดเร็วขึ้น
4. ทำให้ทันต่อเหตุการณ์ในโลกปัจจุบัน เพราะข่าวสารความรู้ มาจากผู้คนมากมาย(ทั่วโลก) และมักจะเปลี่ยนแปลงได้ทันกับเหตุการณ์ปัจจุบันเสมอและอื่นๆ อีกมากมาย
5.2 facebook/twitter
 1.FaceBook จะเป็นการสร้างเครือข่ายและจุดประกายด้านการศึกษาได้อย่างกว้างขวาง หากใช้ได้อย่างถูกวิธี   2.ทำให้ไม่ตกข่าว คือทราบความคืบหน้า เหตุการณ์ของบุคคลต่างๆและผู้ที่ใกล้ชิด    3.ผู้ใช้สามารถสร้างเครือข่ายทางสังคม แฟนคลับหรือผู้ที่มีเป้าหมายเหมือนกัน และทำงานให้สำเร็จลุล่วงไปได้     4.สามารถสร้างมิตรแท้ หรือเพื่อนที่รู้ใจที่แท้จริงได้     5.FaceBook เป็นซอฟแวร์ที่เอื้อต่อผู้ที่มีปัญหาในการปรับตัวทางสังคม ขาดเพื่อน อยู่โดดเดี่ยว หรือผู้ที่ไม่สามารถออกจากบ้านได้ ให้มีเครือข่ายทางสังคม และเติมเต็มชีวิตทางสังคมได้อย่างดี ไม่เหงาและปรับตัวได้ง่ายขึ้น      6.สร้างเครือข่ายที่ดี สร้างความเห็นอกเห็นใจ และให้กำลังใจที่ดีแก่ผู้อื่นได้
5.3 you tube
1.เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ให้ข้อมูลต่างๆที่สามารถเข้าใจได้ง่าย
2. เป็นแหล่งรวบรวมความบันเทิง เช่น เพลง มิวสิควีดีโอ หนัง เป็นต้น
3. เป็นแหล่งการเรียนรู้ให้ศึกษาทดลองทางวิทยาศาสตร์จากทั่วโลก
4. สามารถทำให้เราติดตามดูละครหรือทีวีย้อนหลังได้
รายงานผู้ดูแลระบบ · 18:25
kittisaks45@hotmail.com